ดู sms ตรงขอบล่างจอทีวี สะท้อนมุมมองของผู้ชมรายการ มีหลายข้อความทำนองว่า…
“เฮ้อ…เมื่อไหร่จะเลิกทะเลาะกันสักที”
“เบื่อ…บ้านเมืองทำไมวุ่นวายอย่างนี้”
ผมอ่านแล้วอดมโนภาพแบบตลกร้ายไม่ได้ว่า เจ้าของข้อความคงเป็นสาวน้อยสักคนที่กดมือถือตื๊ดๆๆส่งไปขึ้นจอ เสร็จแล้วเธอก็กลับมากลุ้มใจเรื่องกิ๊กของตัวเองตามประสา…
“เฮ้อ…เค้าคิดยังไงกับฉันน้า”
“เค้ารักฉันมั้ยน้า”….
คืออารมณ์มันเหมือนเธอไม่อยากจะสนโลกใดๆ อยากยุ่งแต่เรื่องตัวเองเท่านั้น พร้อมกับมีกรอบความคิดอย่างหนึ่งว่า โลกนี้ได้เซตเอาไว้ดีอยู่แล้ว มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความสุขของทุกคน ห้ามมันกลายเป็นอย่างอื่น และถ้ามันผิดปกติไป คือมันไม่ได้เป็นโลกที่น่าอภิรมย์ มันก็ควรจะรีบๆกลับมาน่าอภิรมย์ด้วยตัวมันเองเสียโดยเร็ว!
ผมอดนึกต่อไปไม่ได้ว่า ถ้าเธออยู่ที่แอฟกานิสถาน เขายิงระเบิดกันตูมตาม เธอจะเรียกร้องเอาความปกติสุขจากใคร เพราะจริงแล้วความปกติสุขไม่ได้ถูกธรรมชาติสร้างขึ้นมาเอง ทุกชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์ได้เบียดเบียนกันตลอดเวลาในรูปแบบต่างๆ สังคมจะสงบสุขได้นั้นขึ้นอยู่กับคนส่วนใหญ่นั่นแหละที่ต้องการให้มันสงบสุข แล้วก็ลงมือทำอะไรบางอย่างที่มากกว่ามาร้อง “เฮ้อ เมื่อไหร่…”
อันนี้ผมหมายถึงความสงบของสังคมนะครับ แต่ถ้าพูดถึงความสงบในแง่ปัจเจก ซึ่งคนเราสามารถมีจิตอันสงบได้ด้วยการปฏิบัติธรรม แม้โลกจะวุ่นวายยังไงก็ตามนั่นอีกเรื่องหนึ่ง
นั่งมโนภาพไปเรื่อยเปื่อยสักพักพลันได้เห็นอีกข้อความ… “สังคมมีปัญหาเพราะคนขาดจิตสำนึก”
อืมม… ใช่ (ผมคิดต่อ)
พูดกันมานานเรื่องจิตสำนึก ถ้าเราขาดแคลนข้าว เราก็ปลูกข้าวให้พอกิน เมื่อเราขาดแคลนจิตสำนึก ไฉนไม่เร่งปลูกจิตสำนึกกันเยอะๆ
แต่ก็นั่นแหละ เจ้าต้นจิตสำนึกนี่มันปลูกไม่ค่อยจะขึ้นซะด้วยสิ แถมโตช้าอีกต่างหาก
ไปๆมาๆเกิดภาพหนึ่งปรากฏในหัวผม เป็นไพ่ Courage ของชุด Osho Zen Tarot
ดอกไม้ป่าแทรกตัวขึ้นจากซอกหิน เบ่งบานงดงามท้าทายความแห้งแล้ง มันเติบโตขึ้นจากสภาพที่ไม่เอื้อต่อการเติบโตอย่างยิ่ง…
เวลาท้อแท้แล้วได้เห็นภาพนี้ ผมมีแรงฮึดขึ้นมาทุกที เจ้าดอกไม้ป่าที่ไม่มีใครสนใจใยดีกลับเปล่งรังสีออร่า แม้เป็นไม้เล็กๆแต่กลับแสดงคุณค่าในตัวมันเองได้อย่างกล้าหาญ
ผมเชื่อว่ามีคนตัวเล็กๆ คนกลุ่มเล็กๆ หรือชุมชนเล็กๆ ที่เดินหน้าทำงานปลูกจิตสำนึกกันอย่างไม่ย่อท้อ ปลูกให้เยาวชน ให้เพื่อนร่วมสังคม และหวังว่าสักวันต้นจิตสำนึกเหล่านั้นจะค่อยๆเบ่งบานจนเต็มเมือง
ดอกไม้เล็กๆนี้มอบเป็นกำลังใจครับ 🙂
lek
กรกฎาคม 12, 2008 at 12:29 pm
“เจ้าของข้อความคงเป็นสาวน้อยสักคนที่กดมือถือตื๊ดๆๆส่งไปขึ้นจอ เสร็จแล้วเธอก็กลับมากลุ้มใจเรื่องกิ๊กของตัวเองตามประสา…”
โดนมากครับ…..
If we want change, we need to act.
khun_aut
กรกฎาคม 12, 2008 at 4:27 pm
Lek, without Act, it’s also an Act! : )
khun Jitpan, ไม่ได้เข้ามาเสียนาน สบายดีนะครับ ผมเขียนเรื่อง มือที่สาม ไปเมื่อเช้า จากนั้น “Lek” แนะนำให้มาอ่านที่นี่ด้วย
… คนปลูกต้นสำนึก น่าจะเป็น “มือที่สาม” ประเภทหนึ่ง ที่เราต้องการ … ว่ามั้ยครับ ?
Happy Happy เอาไว้นะครับ ต้นสำนึก !
: )
jitpan
กรกฎาคม 13, 2008 at 7:44 pm
ยินดีที่ได้ทักทายกันอีกครับ ไม่ได้เจอหน้าเจอตากันนานเลยทั้งๆที่อยู่บ้านใกล้กันทั้งนั้น 🙂
คนปลูกต้นสำนึก เป็นพวกสนโลกน่ะครับ จะอยู่ข้างไหนหรือไม่อยู่ข้างไหนเลยก็ตาม เชื่อว่ามือที่สามของ khun aut ต้องเป็นพวกสนใลกด้วยแน่ๆเลย ^^
มะลิ
กรกฎาคม 18, 2008 at 12:54 am
คิดตามก็อืออ จริงๆด้วยง่า
ดูเหมือนจะคิดถึงสังคม แต่จริงๆแล้วก็คือคิดถึงเรื่องของตัวเอง